Fotona Laser เลเซอร์ผิวหน้าใส
Fotona Laser (โฟโตน่า เลเซอร์) เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์จากยุโรปที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการดูแลผิวโดยไม่ใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นครับ
โดย 1 ในเครื่องเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่ม Fotona Laser คือ Fotona SP Dynamis ซึ่งรวมเทคโนโลยี Er : YAG และ Nd:YAG เข้าไว้ในเครื่องเดียว จุดเด่นของเครื่องนี้ไม่ได้อยู่แค่ความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี แต่ยังอยู่ที่ “ความยืดหยุ่น” ในการปรับใช้งานกับปัญหาผิวที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งปัญหาผิวชั้นตื้นและผิวชั้นลึก
สารบัญ Fotona Laser
Fotona Laser คืออะไร ?
Fotona Laser คือ เลเซอร์ทางการแพทย์จากบริษัท Fotona ผู้นำด้านการผลิตเลเซอร์ทางการแพทย์จากประเทศสโลวีเนีย ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการกว่า 60 ปี พัฒนาเทคโนโลยีตามมาตรฐานสากล และผลิตภายใต้กระบวนการที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยระดับสากลครับ
ในบทความนี้หมอโฟกัสที่ Fotona SP Dynamis ซึ่งเป็นเครื่องเลเซอร์ที่ทันสมัยและได้รับความนิยมสูง ซึ่งแต่ละคลินิกอาจเรียกชื่อต่างกัน เช่น Fotona Laser, Fotona SP Dynamis, Fotona 4D ทั้งหมดนี้เป็นเลเซอร์ตัวเดียวกันครับ
Fotona SP Dynamis ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์แบบ Duo Wavelength คือ Er : YAG 2940 nm และ Nd : YAG 1064 nm รวมอยู่ในเครื่องเดียว ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งในระดับตื้นและลึกของผิว
ในทางการแพทย์ เรานำเครื่องนี้มาใช้ทั้งในด้านโรคผิวหนัง ความงาม และการผ่าตัด
เครื่อง Fotona SP Dynamis ผ่านการรับรองจากทั้ง US FDA, อย.ไทย และ มาตรฐานยุโรป นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยบริษัท เลเซอร์ เอ็นจิเนีย จำกัด
คุณสมบัติเด่นของ Fotona SP Dynamis
1. รวมพลังงานเลเซอร์ 2 ความยาวคลื่น (Er : YAG และ Nd : YAG)
ช่วยให้สามารถเลือกใช้พลังงานได้เหมาะสมกับปัญหา ทั้งในระดับผิวตื้นและผิวลึก
2. มีโหมดการทำงานเฉพาะที่หลากหลาย
เช่น SmoothLiftin™, FRAC3®, PIANO® และ SupErficial™
3. เป็นเลเซอร์ Non-invasive (ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้เข็ม)
ลดความเสี่ยงเรื่องบาดแผล และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
4. ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
ผ่านการรับรองจาก US FDA, CE Mark (ยุโรป) และ อย.ไทย ใช้กันอย่างแพร่หลายในคลินิกผิวหนังและโรงพยาบาลทั่วโลก
5. ใช้งานได้ทั้งด้านความงามและการแพทย์
เช่น การรักษาสิว, หลุมสิว, กระ, ฝ้า, ไฝ, ติ่งเนื้อ, ปรับสีผิว, กระชับรูขุมขน, ลดไขมัน, เส้นเลือดขอด และกระตุ้นการงอกของเส้นผม
6. เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวที่คล้ำหรือระคายเคืองง่าย
เพราะสามารถปรับพลังงานได้อย่างแม่นยำและมีโหมดเฉพาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เช่น PIANO® และ FRAC3®
7. สามารถใช้ในการดูแลผิวทั่วไปและการรักษาเฉพาะทาง
เช่น การฟื้นฟูภายในช่องปาก, การกระชับช่องคลอด, ลดการกรน รวมถึงใช้ร่วมในการผ่าตัดเล็กได้ด้วย
หลักการทำงานของ Fotona Laser
Fotona Laser เป็นเลเซอร์ทางการแพทย์ที่ใช้พลังงานแสงในการกระตุ้นผิวอย่างแม่นยำ โดยมี 2 ความยาวคลื่นหลัก คือ Er : YAG และ Nd : YAG ซึ่งแต่ละชนิดจะทำงานในระดับความลึกของผิวต่างกัน เพื่อให้ครอบคลุมปัญหาผิวได้ทั้งผิวตื้นและผิวลึก
- Er:YAG (2940 nm)
จะทำงานที่ผิวหนังชั้นบน เหมาะกับการขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกอย่างอ่อนโยน ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส ลดรอยแผลเป็น รูขุมขนกว้าง และจุดด่างดำ
- Nd:YAG (1064 nm)
เป็นเลเซอร์ที่ลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย รักษาเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง รวมถึงกระตุ้นรากผมในบางกรณี
ในบางโปรแกรม เครื่องจะสลับการใช้เลเซอร์ 2 ชนิดนี้ตามขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทั้งด้านการฟื้นฟูผิวและการยกกระชับในครั้งเดียว
Fotona Laser ต่างจากเลเซอร์อื่นอย่างไร ?
หลายคนอาจสงสัยว่า Fotona Laser ต่างจากเลเซอร์อื่น ๆ ที่เคยได้ยินหรือเคยทำอย่างไร เช่น IPL, CO2 Laser หรือ Q-Switched จริง ๆ แล้วแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน แต่จุดเด่นของ Fotona SP Dynamis คือการรวม เทคโนโลยี Er:YAG และ Nd:YAG เข้าไว้ในเครื่องเดียว ทำให้สามารถรักษาได้ทั้งผิวชั้นตื้นและผิวชั้นลึก โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องหรือหัวเลเซอร์
ตารางเปรียบเทียบ Fotona Laser กับเลเซอร์อื่น ๆ
| เปรียบเทียบ | Fotona Laser (SP Dynamis) | เลเซอร์ทั่วไป(เช่น IPL, CO2, Q-Switched) |
|---|---|---|
| พลังงาน | มี 2 ความยาวคลื่น Er : YAG (2940 nm) + Nd : YAG (1064 nm) | ส่วนใหญ่มีเพียง 1 คลื่น เช่น IPL ใช้แสงหลายช่วง แต่ไม่จำเพาะ |
| การทำงาน | ครอบคลุมได้ทั้งผิวตื้น-ลึก ปรับพลังงานละเอียด | มักเน้นแค่ระดับตื้นหรือเฉพาะเจาะจงจุดใดจุดหนึ่ง |
| ความปลอดภัย | ควบคุมพลังงานได้แม่นยำ ใช้ได้กับทุกสีผิว | หากทำในผู้ที่มีผิวคล้ำหรือแพ้ง่าย อาจเสี่ยงผิวเบิร์นได้ |
| การฟื้นตัว | ไม่ต้องพักฟื้น ผิวแดงเล็กน้อย หายได้เอง | มีแผลตกสะเก็ด ต้องพักฟื้น เช่น CO2 พักฟื้น 5-7 วัน |
| ประสิทธิภาพ | ใช้งานได้หลายโปรแกรม เช่น กรอผิว, เส้นเลือดขอด, รูขุมขน, ลดไขมัน, จี้ไฝ จี้ติ่งเนื้อ, กำจัดขน | ส่วนใหญ่แก้ปัญหาเฉพาะด้าน เช่น กระ หรือหลุมสิวเท่านั้น |
Fotona Laser ช่วยอะไรได้บ้าง ?
ในด้านความงามมี 5 โปรแกรมที่หมอแนะนำ ดังนี้
- กรอผิวใส
- รักษาเส้นเลือดขอด
- กระชับรูขุมขน
- จี้ไฝ จี้ติ่งเนื้อ
- หลุมสิว
กรอผิวใส
เป็นวิธีทำให้หน้าใส ด้วยการใช้ ER : YAG ยิงบริเวณผิวหน้า เพื่อกระตุ้นการผลัดผิวชั้นบน ช่วยให้ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ กระชับรูขุมขน และช่วยลดผิวหน้าหมองคล้ำ โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 4 โหมด หรือที่เรียกว่า Fotona 4D ได้แก่
- SmoothLiftin™ กระตุ้นคอลลาเจนจากด้านในกระพุ้งแก้ม ช่วยเติมร่องแก้มและยกมุมปาก
- FRAC3® ปรับสภาพผิวหน้า ลดจุดด่างดำ หน้ากระจ่างใส
- PIANO® ลดไขมันแก้ม เหนียง
- SupErficial™ ผลัดเซลล์ผิว และกระชับรูขุมขน
หลังทำผิวจะแห้งลอกเป็นขุยบาง ๆ ประมาณ 1-3 วัน และผิวจะกลับมาเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์
รักษาเส้นเลือดขอด
การรักษาเส้นเลือดขอด จะใช้เลเซอร์ Long-pulse ND : YAG 1064 nm ที่ปล่อยพลังงานที่ถูกดูดซับด้วย Oxyhemoglobin (เม็ดสีในเลือด) พลังงานแสงเลเซอร์จะเปลี่ยนเป็นความร้อน ทำให้ผนังหลอดเลือดเสื่อมสภาพ และหลอดเลือดถูกทำลาย โดยจะเหมาะกับเส้นเลือดฝอยขนาดเล็ก-ปานกลาง ขนาดไม่เกิน 2 mm เช่น เส้นเลือดฝอยที่ขา หรือใบหน้า
ข้อดีของการใช้ Fotona Laser รักษาเส้นเลือดขอด
- เจ็บน้อย
- ไม่ต้องผ่าตัด
- ไม่มีรอยแผลเป็น
- ใช้เวลารักษาไม่นาน
- สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว
กระชับรูขุมขน
ใช้ ER : YAG ยิงบริเวณผิวหน้า เพื่อกระชับรูขุมขน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล ไม่ต้องดูแลให้ยุ่งยาก และทำได้บ่อย
จี้ไฝ จี้ติ่งเนื้อ
การกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อส่วนเกินที่ไม่ต้องการ ต่อมไขมันโต รวมถึงสิวหิน สิวอุดตัน สามารถใช้ Er :YAG โดยที่เนื้อเยื่อรอบข้างไม่ถูกทำลาย อีกทั้งขอบแผลเรียบเนียนสวย ไม่มีเลือดออกหลังทำ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินได้อีกด้วย
หลุมสิว
เป็นการใช้เลเซอร์ Er : YAG 2940 nm ที่ปรับช่วงระยะเวลาที่ปล่อยพลังงานให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดความร้อนเล็ก ๆ ใต้ผิว คล้ายผิวชั้นลึกถูกทำลายบางส่วน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ปรับผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ หลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น
หลังทำผิวอาจจะแห้ง ๆ ลอกเป็นขุยสีน้ำตาลอ่อน ประมาณ 5-7 วัน
Fotona Laser เหมาะกับใคร ? ปัญหาผิวแบบไหน ?
- ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ผิวไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง อยากให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น หน้ากระจ่างใสขึ้น
- ผู้ที่ต้องการกำจัดเส้นเลือดขอด (เส้นเลือดที่มีขนาดเล็กมากไม่เกิน 2 mm และตื้น)
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง อยากให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นแบบไม่มีแผล หรือไม่ต้องการดูแลแผลเยอะ
- ผู้ที่กระเนื้อ ไฝ สิวอุดตัน ต่อมไขมันโต สิวหิน ขี้แมลงวัน
- ผู้ที่มีหลุมสิวทุกประเภท โดยเฉพาะหลุมสิวที่มีขอบชัดเป็นหลุมลงไป
Fotona Laser ทำกี่ครั้งเห็นผล ?
ระยะเวลาเห็นผลจะขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่เลือกทำ
| โปรแกรม | จำนวนครั้งในการทำ | ระยะห่างในการทำ |
|---|---|---|
| กรอผิวใส เผยผิวสวย | ทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง | เว้นระยะห่างแต่ละครั้ง 4-6 สัปดาห์ |
| รักษาเส้นเลือดขอด | ทำต่อเนื่อง 1-3 ครั้ง | เว้นระยะห่างแต่ละครั้ง 4 สัปดาห์ |
| กระชับรูขุมขน | ทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง | เว้นระยะห่างแต่ละครั้ง 2-4 สัปดาห์ |
| จี้ไฝ จี้ติ่งเนื้อ | ทำต่อเนื่อง 1-3 ครั้ง | เว้นระยะห่างแต่ละครั้ง 4-8 สัปดาห์ |
| หลุมสิว | ทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง | เว้นระยะห่างแต่ละครั้ง 4-6 สัปดาห์ |
ทำ Fotona Laser เจ็บไหม ?
โดยทั่วไปการทำ Fotona Laser จะไม่รู้สึกเจ็บครับ คนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึกแค่อุ่น ๆ บริเวณที่ยิงเลเซอร์เท่านั้น เพราะเครื่องมีระบบ Air Cooling ที่เป่าลมเย็นลงบนผิว ช่วยลดความร้อน ป้องกันผิวเบิร์น และทำให้รู้สึกสบายขณะทำ
การเตรียมตัวก่อนทำ Fotona Laser
- งดทำทรีตเมนต์, ขัดหน้า, ลอกผิว, มาสก์ผลัดเซลล์ หรือเลเซอร์ชนิดอื่น ล่วงหน้า 3-5 วัน
- หลีกเลี่ยงแดดจัดอย่างน้อย 5-7 วันก่อนทำ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol อย่างน้อย 3-5 วัน
- หากมีประวัติแพ้ยา หรือโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ก่อน
- หากตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
ขั้นตอนการทำ Fotona Laser
- แพทย์ประเมินสภาพผิว วิเคราะห์ปัญหาผิวของคนไข้
- เตรียมผิว ด้วยการทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำ
- บริเวณที่เป็นเส้นขน ควรตัดหรือโกนให้มีความยาวไม่เกิน 1-2 mm
- ไม่จำเป็นต้องแปะยาชา หรือแปะยาชาประมาณ 30-40 นาที (ขึ้นอยู่กับโปรแกรม)
- สวมแว่นตาป้องกันดวงตาจากเลเซอร์ทั้งคนไข้และแพทย์
- แพทย์ยิงเลเซอร์ ตามตำแหน่งที่ต้องการ
- ขณะทำจะมีการใช้เครื่องเป่าลมเย็น ทำให้คนไข้รู้สึกสบาย ช่วยลดความเจ็บ
- ใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และปัญหาผิว
- หลังทำแพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเอง และนัดติดตามผล
การดูแลตัวเองหลังทำ Fotona Laser
การดูแลตัวเองหลังทำ Fotona Laser แต่ละโปรแกรมมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้
หลังทำ Fotona Laser กรอผิวใส เผยผิวสวย และหลุมสิว
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าในวันที่ทำเลเซอร์ ยกเว้นน้ำสะอาด น้ำเกลือ
- หากแสบร้อนมาก ให้ประคบเย็น 20-30 นาที
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้น
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด 2 สัปดาห์
- ทาครีมกันแดด SPF 50 ขึ้นไป
- สามารถแต่งหน้าอ่อน ๆ ได้ ควรงดรองพื้น
- สะเก็ดจะเกิดขึ้น 5-7 วัน ไม่ควรแกะ เกา
หลังทำ Fotona Laser รักษาเส้นเลือดขอด
- ประคบเย็นหลังทำ อย่างน้อย 20-30 นาที
- ทา Steroid หลังทำเพื่อลดความร้อนและลดการอักเสบ
หลังทำ Fotona Laser กระชับรูขุมขน
- สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
- แต่งหน้าหลังทำได้ทันที
- อาจพบอาการหน้าแห้งในบางราย
- ทาครีมกันแดด SPF 50 ขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด 2 สัปดาห์
หลังทำ Fotona Laser จี้ไฝ จี้ติ่งเนื้อ
- งดโดนน้ำ 24 ชั่วโมงแรกหลังทำเลเซอร์
- หลัง 24 ชั่วโมงแรก ควรล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ
- ทายาฆ่าเชื้อภายใน 3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ จนกว่าสะเก็ดจะหลุด
- ไม่ควรแกะ เกา หรือถูบริเวณที่ทำเลเซอร์แรง ๆ
- ทาครีมกันแดด SPF 50 ขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด 2 สัปดาห์
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นเพิ่มเป็น 2 เท่า
หลังทำ Fotona Laser หลุมสิว
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าในวันที่ทำเลเซอร์ ยกเว้นน้ำสะอาด น้ำเกลือ
- หากแสบร้อนมาก ให้ประคบเย็น 20-30 นาที
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้น
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด 2 สัปดาห์
- ทาครีมกันแดด SPF 50 ขึ้นไป
- สามารถแต่งหน้าอ่อน ๆ ได้ ควรงดรองพื้น
- สะเก็ดจะเกิดขึ้น 5-7 วัน ไม่ควรแกะ เกา
ข้อห้าม Fotona Laser ไม่เหมาะกับใคร ?
Fotona Laser มีข้อห้ามใช้ ดังนี้
- ผู้ที่มีความรู้สึกไวเกินปกติ หรือผิวค่อนข้างบอบบาง
- ผู้ที่มีแผลผิดปกติ (Abnornal Scarring)
- ผู้ที่มีแผลหรือติดเชื้อบริเวณที่ทำ
- ผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องรับประทานประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
Fotona Laser อันตรายไหม ?
Fotona Laser มีความปลอดภัย เป็นเลเซอร์ทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองจาก US FDA, CE Mark (ยุโรป) และ อย.ไทย โดยตัวเครื่องมีระบบควบคุมพลังงานที่แม่นยำ และมีหลายโหมดให้แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เครื่องแท้ ได้มาตรฐาน และมีการตั้งค่าพลังงานที่เหมาะสม รวมถึงดูแลผิวหลังทำอย่างถูกวิธี ก็สามารถมั่นใจได้ทั้งในเรื่องผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ
Fotona Laser ราคาเท่าไหร่ ?
Fotona Laser ราคาจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคลินิกครับ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทำ เช่น ทำเป็นจุด (ไฝ 1 จุด, กระเนื้อ 1 จุด) หรือโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจง เช่น รูขุมขนกว้าง เส้นเลือดขอด รอยแผลเป็น
ที่ V Square Clinic หมอให้คำปรึกษาและออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคล มีหลายเครื่องเลเซอร์ ให้หมอ Custom เช่น Fotona, PICOSURE pro, PicoPlus เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
คำถามพบบ่อย (FAQ)
Fotona Laser เว้นระยะห่างแต่ละครั้งกี่วัน ?
การเว้นระยะห่างในการทำ Fotona Laser จะขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่เลือกครับ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 2-8 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัว และกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Fotona Laser ทำได้บ่อยแค่ไหน?
ถ้าเป็นงานผิว เช่น กระชับรูขุมขน ทำได้ทุก 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่เลือกและการตอบสนองของผิว หมอจะประเมินเป็นรายเคสครับ โดยในช่วงแรกแนะนำให้ทำต่อเนื่องครับ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
Fotona Laser หลังทำแต่งหน้าได้ไหม ?
ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่ทำ กรณีโปรแกรมที่มีการผลัดเซลล์ผิว เช่น กรอผิวใส หรือหลุมสิว ควรรอ 1-2 วัน หรือจนกว่าสะเก็ดเริ่มหลุด หากต้องแต่งหน้า ควรเลือกเครื่องสำอางแบบบางเบา หลีกเลี่ยงรองพื้นหนา ๆ และอย่าลืมทาครีมกันแดด SPF 50 ขึ้นไปทุกวันครับ
สรุป Fotona Laser ดีไหม ?
ถ้ากำลังมองหาเลเซอร์ที่สามารถดูแลผิวได้ครบในเครื่องเดียว ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น Fotona Laser คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
- เป็นเลเซอร์ทางการแพทย์ที่ผ่านการรับรองจาก US FDA, CE Mark (ยุโรป) และ อย.ไทย
- ทำได้หลายอย่างในเครื่องเดียว ทั้งกรอผิว, รักษาเส้นเลือดขอด, กระชับรูขุมขน, ลดไขมัน, จี้ไฝ จี้ติ่งเนื้อ, กำจัดขน
- เหมาะกับทุกสภาพผิว มีหลายโหมดให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาผิวอย่างแม่นยำ
- รู้สึกสบายผิวขณะทำ เนื่องจากมีการเป่าลมเย็น
- หลังทำไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ที่ V Square Clinic ทำโดยแพทย์มากประสบการณ์ ด้านเลเซอร์โดยเฉพาะ เลือกใช้โหมดเลเซอร์ที่เหมาะกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล หมอจะช่วยแนะนำโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้ครับ
อ้างอิง
รู้จักโปรแกรม XERF คืออะไร ? ต่างจากเครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ อย่างไร ?
Reading Time: 4 minutesใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กำลังมองหาวิธีแก้ไขเพื่อลดความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย หรือต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด XERF หรือ (เซิร์ฟ) เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการปรับรูปหน้า ยกกกระชับผิว เครื่องมือยกกระชับ XERF คืออะไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? เหมาะกับใคร หมอมีรายละเอียดเกี่ยวกับหัตถการนี้มาแนะนำ ตั้งแต่หลักการทำงาน
ฉีดโบท็อก คืออะไร ? Botox เห็นผลคุ้มค่าหรือไม่ ? มีข้อควร...
Reading Time: 6 minutes- ฉีดโบท็อกดีไหม ? - ตัวยาโบท็อกมีกระบวนการออกฤทธิ์อย่างไร ? - ฉีดโบท็อกซ์ อันตรายไหม ? อยากฉีดโบท็อกอย่างปลอดภัยต้องรู้อะไรบ้าง ? - อันตรายจากโบท็อกปลอม - รวมจุดฉีดโบท็อก ฉีดตรงไหน ? ช่วยอะไรได้บ้าง ?
ดฟิลเลอร์ยกมุมปาก คืออะไร ? อันตราย ? เปลี่ยนหน้าบึ้งให้ส...
Reading Time: 3 minutesฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ให้ใบหน้าดูสดใส และอ่อนเยาว์ขึ้น เป็นหนึ่งในวิธียกมุมปากที่ได้รับความนิยมมากในตอนนี้ครับ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหามุมปากตก ทำให้ใบหน้าเศร้า ดูบึ้งตึง ทั้งยังเป็นหนึ่งในสัญญาณของวัยที่มากขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธียกมุมปากและสนใจการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก บทความนี้หมอได้รวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่ควรรู้ เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่...
Reading Time: 5 minutesเพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ เห็นผลได้อย่างเต็มที่ การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler นับว่ามีส่วนสำคัญมาก ๆ ครับ อะไรที่ต้องระวัง ? หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อปฏิบัติอะไรบ้าง ? หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ? หลังฉีดเสร็จทันทีเป็นอย่างไร ? ใน 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? สวีเดน อเมริกา ต่างกันอย่าง...
Reading Time: 4 minutesปัญหาใต้ตาหลาย ๆ แบบสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครับ เช่น ร่องน้ำตา ตาลึก ตาโหล ใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา แต่จะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? ที่จะแก้ปัญหาใต้ตาได้ตรงจุด หมอมีแนวทางการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับบริเวณใต้ตามาแนะนำครับ
โบท็อก BOTULAX สัญชาติเกาหลี ดีอย่างไร ราคาแพงแค่ไหน ?
Reading Time: 5 minutesโบท็อกในปัจจุบันมีอยู่หลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกัน Botox Botulax เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความสนใจ และนิยมนำมาใช้เป็นอันดับต้น ๆ ในบทความนี้หมอจะอธิบายว่า Botulax ดีไหม ดีอย่างไร? ทำไม Botox Botulax ถึงได้รับความนิยม Botulax 100 U, Botulax 200 U แตกต่างกันอย่างไร?
